
ตาปลา เกิดจากการที่ผิวหนังถูกเสียดสีเป็นเวลานาน จนกระตุ้นให้หนังกำพร้าบริเวณนั้นสร้างจำนวนชั้นมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อปกป้องไม่ให้เกิดการบาดเจ็บลงไปจนถึงหนังแท้ จึงเกิดเป็นตุ่มที่ไตแข็งขึ้นที่ผิวหนังบริเวณที่ถูกเสียดสีเรื้อรัง เกิดเป็นตาปลาขึ้น พบได้บ่อยที่ฝ่าเท้า และยังพบได้ที่บริเวณอื่นด้วย เช่น ส้นเท้า หลังนิ้วเท้า นิ้วมือ ฝ่ามือ และบริเวณที่ถูกเสียดสีบ่อยๆ ตาปลาสามารถรักษาให้หายได้ ถึงแม้จะรักษาหายแล้ว แต่ตาปลาก็สามารถกลับเป็นซ้ำได้อีกหากยังปล่อยให้อวัยวะส่วนนั้นๆ ถูกเสียดสีซ้ำๆ เป็นเวลานาน
ก่อนการใช้วิธีการรักษาทั้ง 2 วิธีท่านควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
● แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรหากท่านเคยแพ้ยาในกลุ่มยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์
● หลีกเลี่ยงการใช้ยาทาที่มีตัวยาสำคัญเป็นโซอิลเปอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide) ยาทาที่มีตัวยาสำคัญเป็นอนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ สบู่เข้มข้น และเครื่องสำอางหรือสบู่ที่ทำให้ผิวแห้ง
วิธีการรักษาตาปลามีด้วยกัน 2 วิธี
วิธีที่1: ใช้ยาทาแก้ตาปลา
ยาทาแก้ตาปลาเป็นยาทาภายนอก แปลว่า ใช้กับส่วนนอกของร่างกายเท่านั้น ห้ามรับประทาน ห้ามนำไปหยอดตา ใส่เข้าไปในช่องคลอด ช่องทวารหนัก หรือหยดเข้าจมูก รวมทั้งห้ามทาไปบนผิวหนังที่เป็นแผลเพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง
สำหรับวิธีใช้ยาทาแก้ตาปลาที่มีตัวยาสำคัญเป็น กรดซาลิไซลิก ให้ทำดังนี้
● ก่อนทายาให้แช่เท้าหรือบริเวณที่เป็นตาปลาในน้ำอุ่นก่อนสัก 15-20 นาทีเพื่อให้ผิวหนังนุ่มลง เช็ดให้แห้ง
● ถูตาปลาเบาๆ เพื่อเอาหนังชั้นนอกของตาปลาออก
● จากนั้นอาจใช้วาสลินหรือน้ำมันมะกอกทาผิวหนัง รอบๆ ตาปลา เพื่อป้องไม่ให้ผิวหนังบริเวณ รอบๆ สัมผัสกับตัวยากรดซาลิไซลิกแล้วเกิดอาการระคายเคือง
● ใช้ไม้พันสำลีที่ชุบยาแล้วแต้มยาลงบนตาปลา
● รอ 5 นาที ให้ยาแห้ง แล้วอาจใช้พลาสเตอร์ปิดทับเพื่อให้ยาสัมผัสกับตาปลา และไม่ให้ยาหลุดหายไปจากตาปลา
● ทายาวันละ 1-2 ครั้ง จนกว่าตาปลาจะหลุดออกหมดซึ่งอาจใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามไม่ควรใช้ยาติดต่อกันนานเกิด 12 สัปดาห์
วิธีที่2: ใช้แผ่นแปะแก้ตาปลา
แผ่นแปะแก้ตาปลามีลักษณะที่เป็นพลาสเตอร์ที่มีผ้าก๊อซบรรจุตัวยาสำคัญเป็นกรดซาลิไซลิกในความเข้มข้น 40% สามารถติดบนผิวหนังได้เลย
การใช้แผ่นแปะแก้ตาปลามีขั้นตอนเช่นเดียวกับการใช้ยาทาแก้ตาปลากล่าวคือ
• แช่เท้าหรือบริเวณที่เป็นตาปลาในน้ำอุ่นก่อนสัก 15-20 นาที เพื่อให้ผิวหนังนุ่มลง
• จากนั้นเช็ดให้แห้ง แล้วถูตาปลาเบาๆ เพื่อเอาหนังชั้นนอกของตาปลาออก
• จากนั้นจึงติดแผ่นแปะลงบนตาปลา เปลี่ยนแผ่นแปะแผ่นใหม่ทุกวันหรือทุก 2 วัน จนกว่าตาปลาจะหลุดออกหมด ซึ่งอาจใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามไม่ควรใช้ ยาติดต่อกันนานเกิด 12 สัปดาห์
วิธีป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นตาปลาอีกครั้ง
• หากเป็นตาปลาที่เท้าควรใส่รองเท้าที่พอดีกับเท้า รองเท้าหัวทู่ หรือป้าน เพื่อไม่ให้บีบนิ้วเท้า รองเท้าส้นไม่สูงเกินไป และพื้นรองเท้านิ่ม
• หากมีตาปลาอยู่ระหว่างง่ามนิ้วเท้า อาจใช้สำลีหรือฟองน้ำบุระหว่างง่ามนิ้วเท้า
• หากมีตาปลาที่นิ้วมือควรใส่ถุงมือเวลาทำงานหรือหลีกเลี่ยงการหิ้วของหนักตลอดจนลดแรงกดเวลาจับปากกาหรือดินสอ
หลังจากที่อ่านกันแล้ว ใครที่กำลังเป็นตาปลาอยู่ก็ลองนำวิธีการด้านบนไปทำตามได้ แต่ถ้าเป็นมากควรไปพบแพทย์และผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่ชาตามมือตามเท้า เมื่อเป็นตาปลาก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมเช่นกัน
ที่มา:http://www.thaijobsgov.com/jobs=56446